ทราบกันหรือไม่ เมื่อเกิดสิวขึ้นบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกาย ด้วยความอยากให้สิวหายไปก็จะกดสิวเองบ้าง
แต่เป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง เพราะการกดสิวด้วยตนเอง อาจนำไปสู่ปัญหารอยแดง หลุมสิว หรือทำให้กลายเป็นสิวอักเสบได้
ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยและหาแนวทางการรักษาสิวอย่างเหมาะสม
ไม่ใช่สิวทุกเม็ดจะสามารถกดได้ สิวแต่ละแบบต่างมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป
การกดสิวในสิวประเภทต่างๆ
1. สิวอุดตัน
สามารถรักษาด้วยการทายาควบคู่ไปกับการกดสิว หากปล่อยไว้นานอาจเกิดการอักเสบ
2. สิวอักเสบ
สามารถรักษาด้วยยาทา บางกรณีแพทย์อาจพิจารณาให้ยารับประทานควบคู่ไปด้วย การกดสิวชนิดนี้แพทย์จะเลือกทำตามความเหมาะสม
3. สิวหัวช้าง
สิวหัวช้างสามารถรักษาด้วยการฉีดยาเพื่อให้ลดการอักเสบ กรณีถ้ามีหัวสิว แพทย์อาจพิจารณาเอาหัวสิวออกร่วมด้วย
อีกทั้งถ้าสิวหัวช้างมีจำนวนมาก แพทย์อาจพิจารณาให้รับประทานยาเพื่อลดการอักเสบของสิว
อาการหลังกดสิว
อาจเกิดรอยแดงประมาณ 2 – 3 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วิธีการดูแลตนเองหลังกดสิว
ประการแรก ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น ยารักษาสิวบางชนิด ยาผลัดเซลล์ผิว
ประการสอง สามารถใช้มอยส์เจอไรเซอร์(Moisturizer)เพื่อสร้างความชุ่มชื้นได้ และที่สำคัญควรงดแต่งหน้า
คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง
เมื่อเกิดสิว ไม่ควรกด บีบหรือแกะเอง เพราะไม่ใช่สิวทุกเม็ดจะสามารถทำการกดสิวได้ หากกดสิวด้วยวิธีไม่เหมาะสม
หรือผู้ทำขาดความชำนาญ อาจทำให้เกิดสิวอักเสบและแผลเป็นได้
หากต้องการกดสิว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง เหมาะสม